กุ้ยหลิน เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศจีน ภูมิประเทศที่เต็มไปด้วยภูเขาหินปูนรูปร่างแปลกตามากมายชื่อกุ้ยหลินมาจากที่อดีตดินแดนนี้มีป่า (หลิน) ต้น “กุ้ยฮวย” เยอะ (ต้นกุ้ยฮวย ในภาษาจีน แปลเป็นไทยคือ ต้นขี้เหล็ก)คนจีนยกให้เป็นดัง “เมืองสวรรค์บนพิภพ”หรือ“ซื่อไหว้เถาหยวน” ด้วยความที่เป็นเมืองแห่งขุนเขา ทำให้เขาหลายๆลูกในเมืองนี้มีลักษณะพิเศษรูปร่างแปลกตา โดยเขาที่ถือเป็นสัญลักษณ์ของเมืองก็คือ “เขางวงช้าง” "นครกุ้ยหลิน" บนพื้นที่ประมาณ 656 ตารางกิโลเมตร ประชากรกว่า 700,000 คน เป็นหนึ่งในหลายเมืองของมณฑลกวงสีหรือกวางสี ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ที่ได้รับการกล่าวขานจากนักท่องเที่ยวว่าเป็น "สวรรค์บนดิน" แม้ "กุ้ยหลิน" จะใช้เวลาเพียง 7 ปี ทำให้ทุกคนได้รู้จักและชอบที่จะเข้าไปสัมผัสกับธรรมชาติที่ถูกปรุงแต่งขึ้นให้เป็นสวรรค์บนดินของนักท่องเที่ยว ยังคาดกันว่าในอนาคตสวรรค์บนดินแห่งนี้จะยิ่งเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวมากขึ้น รวมทั้งนักท่องเที่ยวจากประเทศไทยด้วย ทางการท่องเที่ยวที่ดูสมบูรณ์แบบมากกว่าหลายเมืองในประเทศไทย และภาคเหนือตอนบนที่ว่านี้ อาทิ ทัศนียภาพของลุ่มน้ำลี่เจียง และแม่น้ำหลี่องหยางซั่ว หรือหยางโซ่ว ถ้ำ และภูเขา ตลอดจนการพัฒนาด้วยการวางผังเมืองก่อนลงมือสร้าง จึงทำให้ทุกระบบของเมืองถูกปรุงแต่งให้มีความสอดคล้องกันตามจินตนาการให้เป็นสวรรค์ของนักท่องเที่ยว เพียงแต่สวรรค์ที่ว่านี้ตั้งอยู่บนดิน ที่มนุษย์ทุกคนสามารถไปถึงได้และได้รับความสุขทั้งกาย ใจ และความรู้สึกเมื่อได้สัมผัส ทั้งเขาเขียว ถ้ำสวย น้ำใส และหินแปลก นครกุ้ยหลินจึงเป็นสวรรค์บนดินสำหรับนักท่องเที่ยวที่ไม่อาจปฏิเสธได้จริงๆ สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เช่น
เขางวงช้าง (Elephant Trunk Hill)
เป็นสัญลักษณ์ของเมืองกุ้ยหลิน ตั้งอยู่ในตัวเมืองบริเวณจุดบรรจบของแม่น้ำ 2 สาย ได้แก่ หลีเจียงและถาวฮวาเจียง ( หยางเจียง ) เขางวงช้างมีรูปร่างหากมองจากมุมที่เหมาะจะเห็นเหมือนช้างกำลังใช้งวงดูดน้ำจากแม่น้ำหลีเจียง มีถ้ำลอดระหว่างงวงและขาหน้าของงวงช้างเป็นรูปทรงกลม มองดูคล้ายพระจันทร์กำลังตกน้ำยามพลบค่ำ ถ้ำนี้จึงมีชื่อว่า “ สุ่ยเย่ ” หรือพระจันทร์บนผิวน้ำ เป็นแหล่งท่องเที่ยวขึ้นหน้าขึ้นตาของเมือง
ถ้ำขลุ่ยอ้อ (Reed Flute cave) ถ้ำขลุ่ยอ้อ มีชื่อภาษาจีนกลางว่า “ หลูตี๋ ” ตั้งอยู่ชานเมืองกุ้ยหลิน อยู่ห่างจากตัวเมืองไปทางตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ 5 กิโลเมตร ตั้งอยู่ที่ระดับความสูง 240 เมตร มีบันไดขึ้นไป 60 ขั้น ที่มาของชื่อถ้ำมาจากต้นอ้อที่ขึ้นอยู่ด้านหน้า ในอดีตใช้ทำขลุ่ย ทางเดินภายในค่อนข้างแคบ มีหินงอกหินย้อยงดงามตลอดทาง มีไฟสีสาดไปตรงส่วนที่มีรูปร่างคล้ายอะไรบางอย่าง เช่น สิงโต คน น้ำตก เจดีย์ ฯลฯ ส่วนที่สวยที่สุดคือวังแก้วแห่งราชามังกร เป็นหินงอกขึ้นมาจากบริเวณที่มีน้ำซับ ดูแล้วเหมือนทัศนียภาพของเมืองกุ้ยหลินแถบแม่น้ำหลีเจียง
สวนเจ็ดดาว (Seven Star Park)ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองลั่วหยาง ประมาณ 7 ไมล์ มีความเป็นมาดังนี้เมื่อปี ที่ 64 ของราชวงศ์ฮั่นตะวันออก (25-220 ก่อนคริสตศักราช) ฮ่องเต้ หมิง ได้ส่งผู้แทนไปศึกษาพระพุทธศาสนาทางโลกตะวันตก จากนั้นสามปีต่อมา พระเกจิชื่อดังของอินเดียได้เดินทางกลับมาพร้อมกับผู้แทนโดยทั้งสองได้จูงม้าขาวที่แบกพระไตรปิฎก และพระพุทธรูป นี่เป็นครั้งแรกที่พระพุทธศาสนาเกิดขึ้นในประเทศจีน นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับความสงบร่มรื่นในบริเวณวัด ที่นี่เป็นแหล่งที่รวบรวมสถาปัตยกรรมอันมีค่า อายุกว่า 1900 ปี ประกอบด้วย ห้องบัญชาการฮ่องเต้ ห้องประดิษฐานพระพุทธรูป ห้องสำหรับฟังธรรมเทศนาและระเบียงเรียบด้านหลังวัดที่เชื่อว่าเป็นจุดที่ม้าขาวได้แบกพระพุทธรูปและพระสูตรจากอินเดีย พร้อมๆ กับพระเกจิจากอินเดียทั้งสองรูปได้แปล พระสูตรเป็นภาษาจีนซึ่งทำให้ที่แห่งนี้เป็นแหล่งกำเนิดของพระพุทธศาสนาในประเทศจีน
แม่น้ำหลีเจียง ( Li River) หลีเจียง มีต้นน้ำมาจากเขาลูกแมวหรือที่ชาวจีนเรียกว่า “ มาวเอ๋อ ” ในเขตอำเภอซิงอ่านเมืองไปทางตะวันตกเฉียงเหนือของมณฑลกวางสี ไหลลดเลี้ยวหลบหลีกขุนเขา ผ่านเมืองกุ้ยหลินถึงอำเภอหยางซั่วรวมความยาว 431 กิโลเมตร โดยมีชื่อใหม่ ช่วงต่อจากนั้นว่า กุ้ยเจียง ไหลเข้าสู่ชายแดนที่อำเภออู๋โจวเข้าสู่ทิศตะวันตก ของมณฑลกวางตุ้งที่เมืองเฟิงคาย มีชื่อใหม่ในกวางตุ้งว่า แม่น้ำตะวันตกหรือซีเจียง ไฮไลต์ของการมาเที่ยวที่กุ้ยหลินนี้อยู่ที่การล่องแม่น้ำหลีเจียง ที่มีความยาวกว่า 400 กิโลเมตร เพื่อชมทิวทัศน์ที่สุดงดงามของภูเขาหิน ทั้งนี้โดยปกติแล้วการล่องแม่น้ำหลีเจียงเพื่อการท่องเที่ยวจะทำกันในระยะเวลา 60 กิโลเมตรโดยใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมงเท่านั้น ด้วยเรือ 3 ชั้น ที่สองชั้นล่างจะทำเป็นโต๊ะอาหาร ขณะที่ดาดฟ้าจะเปิดโล่งให้นักท่องเที่ยวชมทิวทัศน์กันได้อย่างอิสระ ในราคาประมาณ 270 หยวน ( ราวพันกว่าบาท ) จุดหมายของการล่องเรือจะอยู่ที่เมือง หยางซั่ว (Yang-Shou)

หยางซั่ว ( Yangshuo)
ตั้งอยู่ทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองกุ้ยหลิน ห่างไปประมาณ 65 กิโลเมตร เป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีทิวทัศน์สวยงาม จนมีคำกว่าวว่า “ หากกุ้ยหลินเป็นเมืองที่สวยที่สุดในจีน หยางซั่วก็เป็นที่ ที่สวยที่สุดในกุ้ยหลิน ” การเดินทางไปเมืองหยางซั่ว ทำได้ทั้งการล่องแม่น้ำหลีเจียง หรือโดยรถยนต์ หยางซั่ว เจริญเติบโตเพราะการท่องเที่ยว ทั้งหมู่บ้านแทบไม่มีสถานที่น่าสนใจ นอกจากร้านขายของ ร้านอาหาร และโรงแรม แต่รอบๆบริเวณเมืองหยางซั่ว มีสถานที่น่าเที่ยวชมหลายแห่ง นับว่าเป็นสวรรค์บนดิน ที่มีชื่อเสียง จนนักท่องเที่ยวมากุ้ยหลินแล้วต้องแวะ มาที่ หยางซั่ว ด้วย เนื่องจากการเดินทางโดย รถยนต์ที่ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที หรืออาจจะนั่งเรือชมทัศนียภาพของหลีเจียง แล้วมาพักแรมที่หยางซั่ว ที่นี่จะสงบเงียบ เหมือนชนบท แต่ก็มีสิ่งอำนวยความสะดวก อย่างพรั่งพร้อมแก่ นักท่องเที่ยว ในราคาถูก ซึ่งจะมีย่านซึ่งประกอบไปด้วย ที่พักราคาถูก มีวิดีโอหนังฮอลลีวู้ดฉาย พร้อมร้านอาหารคาเฟ่ สไตล์ตะวันตก มีขนมแพนเค็ก พร้อมกาแฟ เพียงแต่ลูกค้ามีแต่ชาวต่างชาติเท่านั้น
โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวแบบเป้ใบเดียว หรือเรียกว่า backpacker ชอบนักแล ทั้งยังสามารถเช่าจักรยาน ขี่เที่ยวเล่นชมแหล่ง ท่องเที่ยว อื่นๆ ข้างเคียง กิจกรรมที่พลาดไม่ได้ประการหนึ่งคือ การนั่งเรือท่องแม่น้ำหลีเจียง เส้นทางเรือจากกุ้ยหลินถึงเมือง หย่างซั่ว เป็นระยะทางประมาณ 40 ไมล์ ( 60 กิโลเมตร ) ตลอดทางคดเคี้ยวของแม่น้ำหลี่ คือ ภูเขาน้อยใหญ่ที่มีรูปร่างแปลกตา กระตุ้นจินตนาการของผู้คนดังเห็นได้จากชื่อ เขางวงช้าง เขาตาเฒ่า เขาเจีดย์ และเขารู ภาพชาวประมง นกกาน้ำ และเพื่อนร่วมงานในแพไม้ไผ่แคบๆ


ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น